บทความสุขภาพ

Knowledge

โนโรไวรัส (Norovirus) ระบาดหนัก ควรเฝ้าระวังอาการท้องเสีย

โนโรไวรัสการติดเชื้อที่ควรระวัง

ในช่วงนี้หลายๆคนอาจจะได้ยินเรื่องการติดเชื้อโนโรไวรัสที่มักระบาดในช่วงฤดูหนาว ทำให้มีอาการทางเดินอาหาร เช่น อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย มีไข้ อ่อนเพลีย และมีภาวะขาดน้ำ ซึ่งถ้าในคนที่มีอาการรุนแรงจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม


โนโรไวรัสแพร่กระจายอย่างไร

เชื้อโนโรไวรัสแพร่กระจายได้ง่าย จากการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีการปนเปื้อนเชื้อโนโรไวรัส การสัมผัสพื้นผิวที่มีเชื้อไวรัสและเอามือเข้าปาก การสัมผัสจากน้ำลาย อาเจียน หรืออุจจาระที่มีเชื้อ การสัมผัสผู้ป่วยโดยตรง ซึ่งสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยมักมีอาการรุนแรงในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่


อาการติดเชื้อโนโรไวรัส

คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลว มีไข้ อ่อนเพลีย รับประทานอาหารได้น้อย ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว


การตรวจและดูแลรักษา

แพทย์จะถามประวัติอาการตรวจร่างกาย รวมทั้งอาจส่งอุจจาระเพื่อส่งตรวจหาเชื้อสาเหตุ หากตรวจพบว่ามีการติดเชื้อโนโรไวรัสแพทย์จะให้การดูแลรักษาตามอาการเป็นสำคัญ โดยทั่วไปมักมีอาการดีขึ้นใน 2-3 วัน อย่างไรก็ตามในเด็กเล็กหรือผู้มีอาการรุนแรง เช่น มีภาวะขาดน้ำ หรืออาเจียนถ่ายเหลวปริมาณมาก แพทย์อาจแนะนำให้รักษาตัวในโรงพยาบาลโดยให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดเพื่อรักษาภาวะขาดน้ำ รวมถึงให้ยาแก้อาเจียน ยาแก้ปวดท้องและยาช่วยลดอาการถ่ายเหลวและเฝ้าระวังภาวะความดันต่ำหรือช็อคจากการขาดน้ำ


การป้องกัน


  • ควรล้างมือด้วยสบู่ ก่อนการรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง
  • หลีกเลี่ยงการเอามือเข้าปากโดยเฉพาะในเด็กเล็ก
  • ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุก สะอาด จากแหล่งที่เชื่อถือได้
  • หลีกเลี่ยงการหยิบจับอาหาร หรือปรุงอาหารให้ผู้อื่น
  • ใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น

ในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หากมีอาการอาเจียน ท้องเสีย หรือมีไข้ ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีอาการรุนแรงควรรีบพามาพบแพทย์เพื่อรับการดูและรักษาที่เหมาะสมต่อไป

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

บทความที่เกี่ยวข้อง (2)

ดูทั้งหมด

การผ่าตัดส่องกล้องมดลูก แผลเล็ก หายเร็ว ฟื้นตัวไว ตัวเลือกที่ตอบโจทย์ผู้หญิงยุคใหม่

สำหรับผู้หญิงหลายคนที่ต้องเผชิญกับปัญหาทางสุขภาพเกี่ยวกับมดลูก เช่น เนื้องอก เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ หรือภาวะมดลูกหย่อน การตัดสินใจในการเข้ารับการผ่าตัดอาจเป็นเรื่องทำให้กังวลใจ แต่ด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ในปัจจุบัน มีการพัฒนาการผ่าตัดมดลูกด้วยการส่องกล้อง ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ทันสมัยและให้ผลการรักษาที่ดี ช่วยให้การผ่าตัดแม่นยำขึ้น ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว ลดระยะเวลาการนอนโรงพยาบาลและมีผลข้างเคียงน้อย การผ่าตัดส่องกล้องมดลูกเป็นการผ่าตัดผ่านแผลเล็ก ๆ ที่หน้าท้อง ทำให้ผู้ป่วยเจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิดแผลใหญ่ และยังช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและปัญหารอยแผลเป็นขนาดใหญ่ได้อีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม

การผ่าตัดแบบ Minimally Invasive Surgery คืออะไร? ทำไมถึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า?

ในปัจจุบันการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดได้รับการพัฒนาให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูงคือ การผ่าตัดแบบ Minimally Invasive Surgery (MIS) หรือการผ่าตัดผ่านกล้อง เทคนิคนี้ถูกออกแบบมาเพื่อลดความบอบช้ำต่อร่างกายผู้ป่วย โดยใช้แผลเล็กแทนการผ่าตัดแบบเปิด ส่งผลให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและเจ็บปวดน้อยลง ทั้งยังช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ การผ่าตัดแบบ MIS ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคหลายประเภท ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการฟื้นตัวที่รวดเร็ว

อ่านเพิ่มเติม

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital